วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

โอกาสการเข้าถึงสายพันธุ์ของเกษตรกรไทย


ประเทศไทยมีความหลากหลายทางชีวภาพ
ประเทศหนึ่งของโลก
จนถึงวันนี้ จะว่ามากที่สุดในโลกก็ไม่ผิด
เพราะมีเชื้อพันธุ์ท้องถิ่นภายในประเทศ
กระจายอยู่ทุกภูมิภาคของประเทศไทย
รวมทั้งพ่อแม่พันธุ์จากต่างประเทศ
ที่ถูกส่งเข้ามาผลิตในรูปของเมล็ดพันธุ์
และผลผลิตสดมากมายหลายชนิดพืช
การเข้าถึงสายพันธุ์ของเกษตรกรไทย
ก็มีมากกว่าเกษตรกรชาติอื่นๆ หลายเท่าตัว
นักผลิตพืชชาวไทยก็ได้รับการยอมรับว่า
มีความสามารถในการผลิต
เป็นอันดับต้นๆ ของโลก
เหล่านี้คือปัญหาที่พบและเป็นที่หวั่นวิตก
ของเจ้าของสายพันธุ์ที่ส่งสายพันธุ์ของตน
เข้ามาผลิตและจำหน่ายในประเทศไทย
เมื่อพบสายพันธุ์ของตนถูกผลิตและจำหน่าย
โดยผู้ค้ารายอื่น
ในช่วงหลัง จึงพบว่าพันธุ์พืชใหม่หลายชนิด
มิได้ถูกส่งเข้ามาผลิตและจำหน่ายในประเทศไทย
เมื่อเจ้าของพันธุ์หวั่นเกรงว่าจะเกิดการลักลอบ
นำพ่อแม่พันธุ์มาผลิตและจำหน่าย
โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของสายพันธุ์

เป็นที่ยอมรับของผู้ประกอบการหลายเชื้อชาติว่า
ประเทศไทยมีศักยภาพในการผลิตเมล็ดพันธุ์
ที่ได้คุณภาพสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
ปัญหาการขโมยสายพันธุ์กลับเป็นอุปสรรค
ที่ฉุดรั้งการขยายตัวของอุตสาหกรรม
ผลิตเมล็ดพันธุ์ มิให้เติบโตไปมากกว่านี้
การจัดการปลูกในระบบปิดโดยใช้เทคโนโลยี
จึงถูกนำมาใช้ในประเทศไทย
เพื่อป้องกันการสูญหายของเชื้อพันธุกรรม
เจ้าหน้าที่เทคนิคชาวไทยในวันนี้
จึงเป็นเพียงผู้ดูแลระบบที่ใช้ในการผลิต
มากกว่าจะใช้ความรู้ในการจัดการเช่นในอดีต

มิใช่เพียงประเทศไทยที่เจ้าของสายพันธุ์
พบปัญหานี้ในการส่งส่วนขยายพันธุ์
มาผลิตเมล็ดพันธุ์ แล้วเกิดปัญหา
"โจรสลัดเมล็ดพันธุ์"
แต่เกิดขึ้นมาแล้วช้านานในหลายประเทศ
ที่เป็นแหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์ที่สำคัญของโลก

ความร่วมมือจากหลายฝ่าย
ทั้งเกษตรกรผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์
เกษตรกรผู้นำเมล็ดพันธุ์ไปใช้งาน
ผู้ประกอบการร้านค้าจำหน่ายเมล็ดพันธุ์
พนักงานขายและส่งเสริมการขายทุกบริษัท
ประชาชนผู้บริโภคผลผลิต
ควรช่วยกันเป็นหูเป็นตา
และที่สำคัญที่สุด
ผู้ประกอบการบริษัทเมล็ดพันธุ์
ที่สามารถเข้าถึงแหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์
ของเจ้าของสายพันธุ์รายอื่นได้
ควรมีความละอายต่อการกระทำผิด
ให้ความเคารพต่อกฎหมาย ข้อบังคับ
ไม่นำสายพันธุ์ของผู้อื่นมาผลิตและจำหน่าย
ในชื่อของตนเองโดยไม่ได้รับอนุญาต

Home               Content

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น