วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2562

การคัดเลือกสายพันธุ์มะเขือเทศ


พื้นที่ปลูกมะเขือเทศบ้านเรายังเป็นพื้นที่เดิมๆ
ได้แก่ พื้นที่บนดอย ริมแม่น้ำโขง ที่มีอากาศเย็น
เกษตรกรในพื้นที่ใหญ่ๆ มักปลูกพร้อมกัน
ทั้งส่งตลาดสดและเข้าโรงงานแปรรูป
ราคามะเขือเทศที่ได้รับ จึงไม่ค่อยจะดีนัก

คนไทยไม่นิยมทานมะเขือเทศสดๆ
ส่วนใหญ่มักจะนำมาประกอบอาหาร
เช่น ข้าวผัด ผัดเปรี้ยวหวาน ส้มตำ ฯลฯ
สายพันธุ์ผลท้อยอดนิยมมีขนาดผล 80-100 กรัม
ขั้วงอน (ขนตาสวย) ทรงผลรูปไข่ เปลือกหนา
บ่าไม่เขียว ผลแข็ง น้ำหนักดี สีแดงสด
มีช่องรังไข่ 3-4 ช่อง เพื่อรับน้ำหนักกดทับ
ในการขนส่ง ผลที่มีเพียง 2 ช่องรังไข่
จะบี้แบนเสียหายจากการกดทับได้มากกว่า

มะเขือเทศผลท้อนิยมปลูกในแปลงเปิด
เพราะลงทุนต่ำ ราคาตลาดไม่สูง แตกต่างจาก
มะเขือเทศผลสด หรือ Beef tomato
ที่ผู้บริโภคนิยมทานสดหรือทานกับสลัด
มะเขือเทศผลสดมีทรงผลกลมหรือแบน
ขนาดผลใหญ่มากกว่า 150 กรัมขึ้นไป
เกษตรกรนิยมปลูกในโรงเรือน
เพราะขายได้ราคาสูงกว่ามะเขือเทศผลท้อ

มะเขือเทศสีดา นิยมนำมาเป็นเครื่องส้มตำ
เครื่องประกอบในแกงเผ็ด  เนื้อจึงควรหนา
มีรสชาติออกเปรี้ยวเพื่อการปรุงรส

มะเขือเทศเชอรี่ มีหลายทรง กลม รี หัวใจ
หลากสีสัน แดง เหลือง ส้ม ชมพู ช็อค ม่วง ฯลฯ
รับประทานสดๆ เป็นผลไม้ทานเล่น
ทานง่าย ถูกปากคนไทย ทานเพลิน หมดเป็นกิโล

เกษตรกรทางเหนือนิยมขายเหมายกสวน
จึงต้องการสายพันธุ์ต้นเตี้ยที่เก็บเกี่ยวเร็ว
(Determinate)
ในภูมิภาคอื่นๆ ที่เกษตรกรถือครองพื้นที่ขนาดเล็ก
ต้องการมะเขือเทศต้นกึ่งสูง (Semi-indeterminate)
เพื่อสามารถเก็บเกี่ยวได้เป็นระยะเวลานาน

มะเขือเทศที่นิยมปลูกในโรงเรือน ได้แก่
มะเขือเทศทานสด มะเขือเทศเชอรี่
ล้วนนิยมปลูกพันธุ์ต้นสูง เพื่อการเก็บเกี่ยว
ได้ยาวนานเช่นเดียวกัน

Home               Content

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น